lördag 12 mars 2011

ความฝัน


ตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่ทำมาตลอดคือการรำ,เต้น,และการแสดง
ตั้งแต่อนุบาล จนถึงปัจจุบันนี้ ครอบครัวพยายามยัดสิ่งพวกนี้ให้
จนบางทีก็เบื่อ ที่เสาร์อาทิตย์ ไม่เคยได้หยุดเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
แต่ก็ได้ทำมาตลอด ถึงแม้ปัจจุบันนี้จะค่อยๆห่างหายไปแล้วก็ตาม
ในตอนนั้นคิดตลอดว่ามันไม่ใช่ มันยังไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำชอบ
แต่พอเวลาได้ผ่านไป การที่ได้ออกมาลองทำอะไรหลายๆอย่าง
ที่เมื่อก่อนคิดว่าใช่ เราชอบ เรารักมัน มันกลับไม่ใช่เลย

เพราะจิตใต้สำนึกลึกๆของเรามีแต่เรื่องรำ, เต้น, การแสดง
ตอนนี้เพิ่งจะมารู้ว่าเวลาช่วงนั้นเป็นเวลาที่เรามีความสุข
เราทำมันออกมาได้ดี
เราเห็นคนที่ดูเราอยู่ ยิ้ม แล้วยิ่งทำให้เรามีความสุข
จนตอนนี้ อยากย้อนเวลากับไป อยากกลับไปทำตรงนั้นให้ดีที่สุด
จะตั้งใจเรียน จะขยันซ้อม

ถ้ามีโอกาศได้กลับไทย จะกลับไปเรียนทุกอย่างเพิ่ม
แล้วในอนาคตข้างน่าถ้าเป็นไปได้
ก็อยากมี รร สอน รำ เต้น เล็กๆ
กับเพื่อนๆ คงจะมีความสุขน่าดู

อย่างน้อยนี้ก็คือจุดมุ้งหมายนึงของชีวิตที่ต้องทำให้ได้ :)

onsdag 2 februari 2011

เก็บเกี่ยวประสบการณ์







หลังจากแอบไปเที่ยวปารีสมา สองคืน สามวัน
ก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตประจำวันอีกครั้ง
แปลกที่พอเครื่อลงลงถึงสวีเดนปั้บ ปวดหัวเลย
ไม่รุ้ทำไม ปวดหัวบ่อยจัง

ไปเที่ยวครั้งนี้ได้เจออะไรแปลกไหม่มากมาย
ได้เปิดหูเปิดตา เจออะไรที่ไม่เคยเจอ
ได้เห็นการเป็นอยู่ของคนที่นั้น และที่สำคัญ....
ได้มิตรภาพดีๆจากผู้ร่วมเดินทาง

การไปเที่ยวแต่ละครั้งทำให้มีความคิดอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา
และโตขึ้นเยอะเลย
เป็นการสอนให้เราช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้ดีขึ้น

ทริปน่าไปไหนดี????


fredag 21 januari 2011

หนทางพิสูจน์แรงม้า กาลเวลาพิสูจน์คน


ป่วยมาสามวันเต็มๆแล้ว ตาบวมทั้งสองข้างเลย
อาจจะเป็นเพราะใช้มือสกปรกขยี้ตา

วันนี้นั่งทำโปรเจคเกือบทั้งวันเลย ต้องเสร็จให้ทัน วันพฤหัสน่า
ตอนนี้เสร็จเกิน 70 % แล้ว เฮ้ย โล่งอกไปนิสนึง
ต้องเตรียมกานพรีเซ็นอีก จบไม่จบก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ
วู้ววว สู้ ไม่มีใครให้กำลังใจ ก็ให้กำลังใจตัวเองก็ได้
'' ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน''





3อย่างที่มีบ้างไม่มีบ้าง
วนเวียนเข้าๆออก ๆ
ผ่านไปผ่านมาไม่รู้จักจบจักสิ้น

เริ่มจาก 3อย่างที่ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้ก่อน
1เวลา
2คำพูด
3โอกาส

สามสิ่งนี้ชั้นว่ามันเป็นสิ่งที่เอากลับมาไม่ได้จริงๆ
เวลาหมุนไปไม่มีหยุด เพราะฉนั้นอย่า .....รอ
คำพูด สำคัญมาก คิดก่อนพูด
อย่าพูดให้ความหวังถ้าคิดจะไม่ทำ
อย่าทิ้งโอกาส มันอาจจะเป็นจุดเปลี่ยน
ครั้งเดี่ยวในชีวิต ที่จะเปลี่ยนเราทั้งชีวิตก็เป็นได้

3อย่างในชีวิตที่จะมี
1ความสงบ
2ความซื่อสัตย์
3ความหวัง
ทำไมรู้มั้ย
เพราะความสงบทำให้เรารู้จักตัวเองอย่างดี
เราจะไม่เหลวไหลไปตามกระแสสังคม
เราะแน่วแน่กับเป้าหมาย

ความซื่อสัตย์ทำให้เราอยู่ในกรอบของความดีงาม
ความหวังทำให้เราก้าว ทำให้เราไม่กลัวเมื่อล้ม
และกล้าที่จะลุกขึ้นสู้ ความหวังคือเป้าหมาย
คือแรงที่ดีที่สุดในชีวิต ที่เคยมี

3อย่างที่ทำลายชีวิต
1เครื่องดื่มและสิ่งมึนเมา
2ความหยิ่งคิดว่าตัวเองเก่ง
3ความโกธร
คงไม่ต้องบอกว่ามันทำลายยังไง
แต่ถ้าเรามี 3สิ่งนี้
ชีวิตเราคงไม่ไปไหน
คงไร้ซึ่งคุณค่า.....

สุดท้ายอยากจะบอกว่า
ทัศนคติ สำคัญกว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้
คิดยังไงได้อย่างนั้น
เพราะฉนั้น
มีจิตใจที่ดี คิดดี พูดดี และกระทำดี
นี่แหละสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนนึงควรทำ...

ปล. เครดิด พี่ถิงๆ

onsdag 19 januari 2011

เรื่องความรักและวงกลม 2 วง


ในความเป็นไปของชีวิต คนหลายคนยอมที่จะอยู่เป็นโสด

เพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงในกรอบของตัวเองอย่างที่ไม่มีใครมาทัดทานได้

เขาเหล่านั้นมักคิดว่า เมื่อความรักเริ่มต้น ชีวิตผจญภัยก็พังทลาย

เมื่อรับใครอีกคนเข้ามาในชีวิต โลกส่วนตัวของพวกเขาก็จะล่มสลาย

ความรักกลืนกินโลกใบเดิมของเราไปจริงหรือเปล่า?

ความใกล้ชิดจะทำให้เราสูญเสียจุดยืนที่แท้จริงอย่างนั้นใช่ไหม?

แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น...

คนเราทุกคนมีโลกกลม ๆ คนละใบ กว้างบ้าง เล็กบ้างตามความพอใจ

ในโลกกลม ๆ ใบนั้นเราต่างบรรจุวิถีชีวิต ความรัก ความคิด ความเป็นตัวเองไว้อย่างเต็มเปี่ยม

และเมื่อความรักปรากฏตัว โลกกลม ๆ ของคนอีกคนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

แต่ใช่ว่าเราจะต้องกระโดดออกจากโลกของเราไปอยู่ในโลกของเขาเสียเมื่อไหร่

แล้วไม่มีความจำเป็นใดที่เขาจะต้องกระโดดออกจากโลกของเขา

มาอยู่ในโลกของเราด้วย

วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คนสองคนมีโลกใบเดียวกัน

โดยไม่ละทิ้งโลกส่วนตัวใบเดิมก็คือ

"การยูเนี่ยน" (UNION) โลกสองใบเข้าไว้ด้วยกัน

มันเป็นวิธีง่าย ๆ ตามหลักคณิตศาสตร์ที่เราเคยเรียนรู้กัน

เมื่อวงกลมสองวงคล้องเกี่ยวกันไว้

ส่วนที่อยู่ในเนื้อที่ของกันและกันนั้น

เราเรียกว่า"อินเตอร์เซ็คชั่น" (INTERSECTION)

ซึ่งข้อดีของมันก็คือ ช่วยให้วงกลมสองวงที่ไม่คุ้นเคยกันมาก่อน

ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้แชร์ชีวิตร่วมกัน และมีโลกใบเดียวกัน

ในขณะที่ส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกอินเตอร์เซคชั่นนั้น

ก็ยังมีชีวิตของมันต่อไป

และมันก็ยังเป็นโลกใบเดิมที่บรรจุความเป็นตัวของตัวเองไว้อย่างครบถ้วน

เหมือนความรัก....

โลกที่คนสองคนเกี่ยวคล้องกันไว้นั่นแหละ

คือโลกที่ความรักสร้างขึ้น คือโลกที่คนสองคนจะโอบกอดกันได้ทุกเวลา

และแชร์ทุกอย่างร่วมกัน

ตั้งแต่กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน ฟังเพลงด้วยกัน

ห่มผ้าผืนเดียวกัน..

มันเป็นโลกที่แสนอบอุ่นสำหรับคนเหงา

แต่ถ้ารู้สึกว่า ยากกลับไปเยี่ยมเยือนโลกใบเดิมของตัวเองสักหน่อย

ก็แค่กระโดดออกจากส่วนที่อีนเตอร์เซคชั่นไว้

ห่างออกมาสักหนึ่งก้าว...วิถีชีวิตอิสระของนักผจญภัยก็จะเดินหน้า

ในขณะที่โลกสองใบก็ไม่ได้แยกจากกันไปไหน

เพราะมันเกี่ยวคล้องกันไว้อย่างแน่นหนา

เพราะฉะนั้น ฉันจึงเชื่อว่าความรักกลืนกินโลกของใครไม่ได้หรอก

นอกเสียจากว่าคนสองคนเต็มใจที่จะเคลื่อนวงกลมเข้าใกล้กันเอง

จนซ้อนกันมากขึ้น ๆ และกลายเป็นวงกลมเดียวกันในที่สุด

แล้วมันก็ทำให้ฉันนึกถึงวงกลมของปู่กับย่า, ตากับยาย,แล้วก็พ่อกับแม่ของฉัน

ที่ใช้ชีวิตในวงกลมเดียวกันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกว่าความรักจะลดน้อยลงไปได้เลย........

tisdag 18 januari 2011

im back




พักนี้ก็เหมือนมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเฉยๆ
จนตอนนี้ก็เพิ่งจะคิดได้ว่าเสียเวลาเหลือเกิน

คนเราทุกคนมีความฝัน และก็อยากจะให้ฝันนั้นเป็นจริง
แต่มีไม่กี่คนที่ลงมือทำ
บางคนได้แต่ฝัน ว่าอยากเป็นนู้นเป็นนี้ แต่ไม่ลงมือทำซะที
มุกเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น

ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชม เท่ากัน
แต่ทุกคนใช้เวลา 24 ชม นั้นไม่เท่ากัน
ฝันมันก็จะเป็นแค่ฝันถ้า เราได้แต่ฝัน ฝันอยู่อย่างนั้น
ฝันจะไม่ใช่ฝัน ถ้าเราเริ่มลงมือทำ
ไม่มีคำว่าสายเกินไป...........

'' Some dream of worthy accomplishments while others stay awake and do them.''